วันนี้มาไขข้อข้องใจว่า ทำไมออกกำลังกายแล้วแต่น้ำหนักไม่ลด ของคนที่เพิ่งเริ่มควบคุมน้ำหนัก คงเป็นคำถามที่เพื่อนหลายคนอยากจะรู้คำตอบ.. เราจะมาคุยกันในเรื่องประเภทการออกกำลังกาย ใช้ครับเพื่อนๆฟังไม่ผิดครับ เพราะหากเราไม่เข้าใจ แล้วออกกำลังกายผิดประเภท ออกอย่างไรน้ำหนักก็ไม่มีทางลดลงแน่นอน
การออกกำลังกายสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังต่อไปนี้
1.การออกกำลังกายแบบไม่ใช้ออกซิเจนช่วยในการเผาผลาญ หรือเรียกว่า แอนาแอโรบิค Anaerobic, เวทเทรนนิ่ง (Weight Training)
การออกกำลังกายแบบไม่ใช้ออกซิเจนช่วยในการเผาผลาญพลังงาน เป็นการระเบิดพลังงานในเวลาสั้นๆ เช่น การเล่นเวท (Weight Training) หรือการเล่นยางยืดออกกำลังกาย (Resistance Band) กล้ามเนื้อที่ได้จากการออกกำลังกายประเภทนี้จะเป็นมัดกล้ามเนื้อขาว ซึ่งจะระเบิดพลังงานสูงสุดในระยะเวลาสั้นๆ พลังงานที่เผาผลาญไม่ใช่ไขมัน แต่จะเป็นพลังงานสะสมที่ร่างกายเก็บไว้ที่กล้ามเนื้อและตับ (Glycogen-ไกลโคเจน) แต่ในระยะยาวกล้ามเนื้อที่ใหญ่ ขึ้นจากการออกกำลังกายแบบ (Weight Training) จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี แม้ขณะนั่งอยู่เฉยๆหรือนอนหลับ
2.การออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจนช่วยในการเผาผลาญ หรือเรียกว่าแอโรบิค Aerobic, คาร์ดิโอ (Cardio)
การออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจนช่วยในการเผาผลาญไขมันไปใช้เป็นพลังงาน เป็นการออกกำลังกายแบบค่อยเป็นค่อยไป มีความต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 25 นาที เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิค กล้ามเนื้อที่ได้จากการออกกำลังกายประเภทนี้ คือ มัดกล้ามเนื้อแดง ซึ่งจะเน้นความทนทาน
สรุปว่า ทำไมออกกำลังกายแล้วแต่น้ำหนักไม่ลด
นั้นเพราะเรายังออกกำลังกายไม่ถูกต้อง หรือยังไม่เพียงพอ ดังนั้นการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกิน หรือลดน้ำหนักเพื่อนๆ ต้องการเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่อยู่ตามพุง ต้นแขน ต้นขา ก็จะต้องออกกำลังกายแบบแอโรบิค (Aerobic), คาร์ดิโอ (Cardio) เช่น การวิ่ง, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน ต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาที ขึ้นไป เพราะในนาทีที่ 1-25 ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานสะสมที่กล้ามเนื้อและตับ (ไกลโคเจน) หลังจากนาทีที่ 25 ร่างกายจะเริ่มนำไขมันมาเผาผลาญ
เห็นไหมครับว่า ถ้าเพื่อนๆ ออกกำลังกายวันละ 10-15 นาที แทบจะไม่ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่เลย เพื่อนๆหลายคนจึงเกิดการท้อแท้ เพราะออกกำลังกายไม่ถึง 30 นาที แล้วกลับไปรับประทานอาหารอย่างเต็มที่ โดยคิดว่าได้ลดไขมันไปบ้างแล้ว
รู้อย่างนี้แล้วเพื่อนๆ ต้องออกกำลังกายไม่น้อยกว่า 30 นาที และทาง อยากเเนะนำให้ออกกำลังกายทั้งสองอย่างควบคู่กันไป เพราะยิ่งกล้ามเนื้อแข็งแรงจะใช้พลังงานมากขึ้นแล้ว ก็จะช่วยให้เพื่อนออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ได้นานขึ้นจะทำให้เห็นผลลัพท์ได้ดีและเร็วขึ้นครับ
ตัวอย่าง การออกกำลังกายสำหรับเพื่อนๆที่ชอบออกกำลังกายเองที่บ้าน ใช้โปรแกรม 21วันของ Twenty One S-twist จะเป็นการออกกำลังกายแบบแอนาโรบิค กล้ามเนื่อหลักก็จะแข็งแรงเพิ่มขึ้น จากนั้นก็พักและต่อด้วยการ T25 ในหัวข้อ Alpha – Cardio อีก 25 นาที รับรองผลเลยครับ ว่าเหนื่อย…….(- -‘)