รู้ได้ไงว่าดึง ยางยืดออกกำลังกาย แล้วได้แรงต้านเท่าไหร?

รู้ได้ไงว่าดึง ยางยืดออกกำลังกาย แล้วได้แรงต้านเท่าไหร

วันนี้มาคุยเรื่องความเข้าใจ แรงต้านของ “ยางยืดออกกำลังกาย” ที่เราเล่นกัน เพราะช่วงนี้มีเพื่อนๆ กำลังซุ่มฟิตซ้อม เพื่อเปลี่ยนรูปร่างตัวเองกันมาก

เลยมีคำถามสอบถามเกี่ยวกับ ยางยืดออกกำลังกาย อย่างเช่น

  • ว่าอยากจะเล่นหนักประมาณ 10 kg ต้องซื้อยางที่แรงต้านเท่าไหรดี?
  • ซื้อแรงต้านมา 10 kg ถ้านำมาเล่นด้วยการดึงสองมือ จะได้แรงต้านทานเหลือข้างละ 5 kg ใช่ไหม?
  • ใช้แบบแรงต้าน 10 kg แต่ผมเอามาเล่นแล้วรู้สึกว่ามันเบาไป ไม่น่าจะถึง 10 kg นะ?
วันนี้ แอดมิน BB-SPORT GIRL จะมาขออธิบายแบบง่ายๆ ให้เพื่อนๆเข้าใจกัน เรามาเริ่มกันที่การวัดแรงต้านของยางกันก่อนนะคะ แรงต้านของยางจะเกิดจากแรงหดตัวของยางเมื่อถูกยืดออก ดังนั้นแรงต้านของยางจะสัมพันธ์กับระยะที่ยางยืดออก ยางยิ่งยืดออกมากแรงต้านก็มากตามไปด้วยคะ
งั้นก็แสดงว่าในยางเส้นเดียวกัน ไม่ว่าเราจะยืดยางจากส่วนไหนออกด้วยระยะเท่าๆกันก็จะเกิดแรงต้านจากยางเท่าๆกัน อันนี้ก็จะเป็นการตอบเพื่อนๆ จากคำถามว่า ถ้าเล่นยางแรงต้าน 10 kg โดยจะเหยียบหรือคล้องยางไว้กับที่ใดแล้วดึงยางออกทั้งสองข้างก็จะได้แรงต้านข้างละ 10 kg ทั้งสองข้างคะ
แรงต้านของยางมักจะวัดที่ระยะยืด 2 เท่าของความยาว
แรงต้านของยางจะไม่คงที่แต่จะค่อยๆเพิ่มจากศูนย์ไปเรื่อยๆ แล้วถ้าเราซื้อยางแรงต้าน 10 kg แล้วค่อยๆดึงยางออกแรงต้านก็จะค่อยๆเพิ่มจากศูนย์ไปจนมากกว่า 10 kg เพื่อนๆฟังไม่ผิดคะ สามารถได้แรงต้านมากกว่า 10 kg ได้คะ เพราะการออกแบบแรงต้านของยางจะใช้หลักการที่ว่าให้เพิ่มระยะยืดเป็น 2 เท่าแล้วให้ได้แรงต้านที่ต้องการ ดังนั้นหากเพื่อนยืดยางออกมากกว่าระยะสองเท่าของความยาวก็ย่อมได้แรงต้านมากกว่าที่แจ้งไว้คะ แต่เราควรทำหรือเปล่า….นั้นเป็นอีกเรื่องนะคะ
คราวนี้ก็กลับมาตอบคำถามเพื่อนกันต่อ ว่าถ้าต้องการเล่นหนักประมาณ 10 kg ก็เลือกซื้อที่แรงต้าน 10 kg หรือประมาณ 22 lb (ยางยืดออกกำลังกาย Heavy) เพราะอุปกรณ์ได้ถูกกำหนดความยาวยางไว้แล้วคะที่ 1.2 เมตร สำหรับคนบ้านเราไม่ว่าจะเล่นท่าไหนยืดจนสุดก็ได้ระยะยืดประมาณ 2 เท่า นอกเสียจากจะนำไปประยุกต์บางท่าสำหรับกล้ามเนื้อบางจุดที่มีระยะการเคลื่อนไหวของท่าน้อยมาก ก็อาจจะทำให้ได้แรงต้านไม่ถึง 10 kg แต่เราก็มีวิธีแก้ไขได้ง่ายๆ
โดยปรับระยะช่วงที่ต้องใช้งานให้สั้นลงเพื่อให้ได้ระยะยืดเป็น 2 เท่า แต่จริงแล้วอาจจะไม่จำเป็นเพราะตำแหน่งมัดกล้ามเนื้อที่มีข้อจำกัดเคลื่อนที่ได้น้อยมากจะเป็นกล้ามเนื้อชุดเล็กที่เราไม่ควรจะให้รับภาระที่มากเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่า และไม่มีผลกับรูปร่างที่เพื่อนๆต้องการแน่นอน